เคล็ดลับวิ่งอย่างไรให้อึด เป้าหมายในการเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่งของใครหลายคน คงเป็นการพิชิตมาราธอนแรกด้วยตัวเองให้ได้สักครั้ง ! ไม่ว่าจะเป็นฟลูมาราธอน ฮาร์ฟมาราธอน หรือมินิมาราธอนเองก็ตามที ซึ่งการที่จะพิชิตเป้าหมายเหล่านี้จำเป็นต้องมีขยับ “ระยะวิ่ง” ให้ไกลขึ้นในทุกวันที่ฝึกซ้อม เตรียมพร้อมสำหรับการลงแข่งขันของจริง

แนะนำ 4 เคล็ดลับวิ่งอย่างไรให้อึด เพื่อพิชิตเป้าหมายของคุณได้อย่างไม่ยาก บอกเลยน่าสนใจมาก ๆ
ดังนั้นเคล็ดลับเพื่อที่จะช่วยให้วิ่งอึด และไกลขึ้น จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ ซึ่งเราเข้าใจจุดนั้นเป็นอย่างดี วันนี้เราจึงได้นำ 5 เคล็ดลับวิ่งอย่างไรให้อึดและไกลขึ้น เพื่อพิชิตมาราธอนแรกมาฝากกัน ขอรับประกันเลยว่าหากคุณได้นำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้แล้วล่ะก็ “ระยะวิ่ง” ของคุณจะต้องไกลขึ้นอย่างแน่นอน คอนเฟิร์ม !!

ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนในแต่ละวัน
สิ่งแรกที่จำเป็นจะต้องท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจคือ “เราจำเป็นจะต้องมีเป้าหมายในแต่ละวัน” ที่จะต้องไปให้ถึงให้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องสนใจความเร็วในการวิ่ง ซึ่งถือเป็นจุดที่หลายคนตกม้าตาย คิดว่าจำเป็นต้องวิ่งให้เร็ว เร่งสปีด เพื่อให้ถึงเส้นชัยโดยไว แต่กลับกลายเป็นว่าหมดแรงก่อนเสียอย่างนั้น ดังนั้นสิ่งแรกที่ทำและจดจำไว้ทุกวันก่อนออกซ้อมคือกำหนดเป้าหมาย “เป็นระยะทาง” ในแต่ละวันให้ชัดเจน เพื่อให้มีกำลังใจซ้อมต่อไป
อย่าละเลยการเตรียมตัวก่อนวิ่ง
อีกหนึ่งจุดที่หลายคนมักตกม้าตายคือ “ละเลยการเตรียมตัวก่อนวิ่ง” หากอยากวิ่งให้ไกลขึ้น อึดขึ้น กล้ามเนื้อจำเป็นจำต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุดในทุกครั้งที่วิ่ง ดังนั้นอย่าได้ละเลยการวอร์มอัพและยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนการวิ่งเด็ดขาด ควรให้เวลากับการวอร์มอัพและยืดเหยียดประมาณ 10-15 นาทีเพื่อให้ร่างกายพร้อมกับการวิ่งมากที่สุด

ในแต่ละสัปดาห์ให้เพิ่มเวลาวิ่ง 5-10 นาที
เมื่อเราวิ่งมาได้สักระยะ จะพบว่าเราจะมีระยะวิ่งที่เราสามารถวิ่งได้แบบสบาย ๆ เช่น วิ่งได้ 30 นาทีต่อเนื่องโดยไม่เหนื่อย เป็นต้น ซึ่งหากเราวิ่งในระยะเดิมไปเรื่อย ๆ ร่างกายเราจะไม่เกิดการพัฒนา ดังนั้นเราจำเป็นต้องค่อย ๆ ขยับเวลาวิ่งของเราให้มากขึ้น โดยการเพิ่มระยะวิ่ง 5-10 นาทีแต่ทุก ๆ สัปดาห์ ข้อสำคัญคืออย่าเร่งรีบเพิ่มระยะเวลาในการวิ่งมากเกินไป เพราะอาจทำให้เราบาดเจ็บได้
ความสม่ำเสมอคือหัวใจ
การที่จะวิ่งได้ไกลขึ้น อึดขึ้น เพื่อพิชิตมาราธอนแรกนั้น แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ปุบปับจะทำได้ภายใน 1-2 วันอย่างแน่นอน สุดท้ายจึงขึ้นอยู่กับแรงใจ ความอดทน และวินัย ว่าเรากระหายต่อเป้าหมายนั้นมากพอหรือไม่ โดยการฝึกซ้อมทุกวันอย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาด และเมื่อใกล้ถึงวันแข่งอย่าได้ลืมจัดวันซ้อมให้เป็นการซ้อมเสมือนจริงทั้งระยะทาง และจุดพักเพื่อดื่มน้ำ เพื่อดูว่าเรามีความพร้อมเต็มที่แล้วหรือไม่ด้วยล่ะ
ตามข่าวสารมากมายได้ที่ การดูแลความงาม ไม่ให้พลาดข่าวสารอีกมากมายของเรา และ อาหารที่ควรมีติดโต๊ะทำงาน บอกเลยว่าทานได้ง่าย ๆ แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย