Kcal และ Calories กับความแตกต่างของฉลากเครื่องดื่ม ที่บอกเลยว่าน่าสนใจสุด ๆ

Kcal และ Calories ที่หากใครกำลังเริ่มดูแลสุขภาพ แต่ก็รู้สึกมึนงงกับฉลากสินค้าซึ่งมักจะระบุไว้ว่า Kcal และ Caloriesซึ่งอันที่จริงหน่วยวัดเหล่านี้ปรากฏอยู่ในบรรจุภัณฑ์หลากหลายทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้ นม อาหารสำเร็จรูป ขนม ทั้งแบบเพื่อสุขภาพ และแบบทั่วไป อย่างไรก็ดีเรามีสิ่งที่ควรรู้คร่าว ๆ เกี่ยวกับหน่วยวัดเหล่านี้

Kcal และ Calories ปริมาณพลังงานในอาหารและเครื่องดื่ม หรือปริมาณพลังงานที่คุณเผาผลาญในการออกกำลังกาย
แคลอรีเป็นหน่วยวัดพลังงาน หมายถึง ปริมาณพลังงานในอาหารและเครื่องดื่ม หรือปริมาณพลังงานที่คุณเผาผลาญในการออกกำลังกาย โดยพลังงานอาจวัดเป็นกิโลแคลอรี (kcal) และกิโลจูล (kJ) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความนิยมในประเทศของเรา อันที่จริงสิ่งนี้อาจสร้างความสับสน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังนับแคลอรี หรือเปรียบเทียบปริมาณแคลอรีอยู่

เมื่อพูดถึงแคลอรี (Calories) เรามักใช้กับปริมาณ “เล็ก” หรือ “มาก”
- หาก “c” ในแคลอรีเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ แสดงว่ามีแคลอรีมาก และถ้าเป็นตัวพิมพ์เล็กแสดงว่ามีแคลอรีน้อย
แคลอรีขนาดใหญ่ 1 แคลอรีเท่ากับ 1,000 แคลอรีขนาดเล็ก โดย 1 กิโลกรัมเท่ากับ 1,000 กรัม
- เพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนระหว่างแคลอรีขนาดใหญ่และขนาดเล็ก จึงใช้กิโลแคลอรีซึ่งเป็นคำนำหน้า kcal นั่นเอง
- แต่คุณไม่จำเป็นต้องแปลงเอง เพราะ 1 กิโลแคลอรีเท่ากับ 1 แคลอรีในโภชนาการ ดังนั้น 1 Kcal = 1 Calories
ข้อกฎหมายกำหนดให้ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มต้องแสดงฉลากข้อมูลโภชนาการบนผลิตภัณฑ์ของตน โดยจะแสดงข้อมูลจำนวนพลังงานที่มีต่อหนึ่งหน่วยบริโภคหรือน้ำหนัก โดยฉลากข้อมูลโภชนาการจะทำหน้าที่แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพของอาหารและเครื่องดื่มนั้นๆ ที่รวมถึงหากมีส่วนผสมที่คุณอาจต้องหลีกเลี่ยงเนื่องจากการแพ้ หรือความชอบส่วนบุคคล เป็นต้น
ข้อมูลโภชนาการอาจแสดงค่าพลังงานของอาหารหรือเครื่องดื่มเป็นแคลอรี กิโลแคลอรี กิโลจูล หรือค่าผสม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่เราอาศัยอยู่ เช่น

สหรัฐอเมริกา: แคลอรี
แคนาดา: แคลอรี
สหภาพยุโรป (EU) : kJ และ kcal
ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์: kJ หรือทั้ง kJ และ kcal
จีน: kJ
สารอาหารที่ให้พลังงานหลัก 3 ชนิด ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน
โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตแต่ละชนิด ให้พลังงานประมาณ 4 แคลอรี (16.7 กิโลจูล) ต่อกรัมในขณะที่ไขมันให้ 9 แคลอรีต่อกรัม (37.6 กิโลจูล)
แอลกอฮอล์ยังให้พลังงาน 7 แคลอรี (29.3 กิโลจูล) ต่อกรัม
นอกจากนี้ฉลากของอาหารที่มีเส้นใยซึ่งจัดเป็นคาร์โบไฮเดรต อาจมีแคลอรีน้อยกว่าที่คุณคำนวณได้ เนื่องจากไฟเบอร์ขึ้นอยู่กับชนิดและไม่สามารถย่อยได้ หรือย่อยได้ไม่ดีจึงทำให้แคลอรีเป็นศูนย์หรือน้อย
หวังว่าข้อมูลนี้คงจะทำให้คุณเข้าใจฉลากอาหารและเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ได้มากขึ้น สำหรับในเมืองไทยเราจะเห็นหน่วยที่ค่อนข้างหลากหลาย เนื่องด้วยหากเป็นสินค้านำเข้า ก็จะมีการแปลข้อมูลเป็นภาษาไทยโดยอ้างอิงจากหน่วยของฉลากเดิมนั่นเอง
ตามข่าวสารมากมายได้ที่ การดูแลความงาม ไม่ให้พลาดข่าวสารอีกมากมายของเรา และ วิธีการรักษาสิวอักเสบ มาร์คหน้าด้วยธรรมชาติ